วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ปีแห่งความเชื่อ



สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงประกาศ เมื่อวันที่  11  ตุลาคม  2011  เรื่อง ปีแห่งความเชื่อ         (Year of Faith) เริ่มตั้งแต่วันที่  11 ตุลาคม  2012  โอกาสครบ 50 ปี ของการเปิดสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 และครบ 20 ปี การพิมพ์หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC) ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน  2013  สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
        “ประตูแห่งความเชื่อ” ( กจ 14: 27 ) เปิดเสมอสำหรับเรา เพื่อให้เรามีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า และเป็นสมาชิกในพระศาสนจักร อาศัยศีลล้างบาปเราจึงสามารถเรียกพระเจ้าว่าพระบิดา  เมื่อสิ้นใจจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ซึ่งเป็นผลของการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู
        สมเด็จพระสันตะปาปาทรงให้เหตุผลถึงความจำเป็นที่เราต้องหันกลับมาค้นพบหนทางสู่ความเชื่อกระตือรือร้นที่จะมีประสบการณ์พบปะกับพระคริสตเจ้า สาเหตุเพราะปัจจุบันคริสตชนมากมายได้รับผลกระทบจากวิกฤตลึกของความเชื่อ
        ประชาชนปัจจุบันยังคงสามารถมีประสบการณ์เหมือนหญิงชาวสะมาเรีย ซึ่งจำเป็นที่ต้องไปที่บ่อน้ำเพื่อฟังพระเยซูเจ้า  ผู้ทรงเชิญเราให้เชื่อในพระองค์  และมาพบท่อธารน้ำทรงชีวิตในพระองค์ (เทียบ ยน 4:14)  เราต้องค้นพบรสของพระวาจาของพระเจ้า  ที่พระศาสนจักรมอบให้อย่างซื่อสัตย์ และปังทรงชีวิตที่พระองค์ทรงมอบให้บรรดาศิษย์  ( เทียบ ยน 6:51)
        ในเดือนตุลาคม  2012  จะมีสมัชชาสามัญ (Synod) ของบรรดาพระสังฆราช  เรื่อง  การประกาศข่าวดีใหม่  เพื่อการถ่ายทอดความเชื่อคริสตชน  เพื่อเป็นโอกาสดีให้พระศาสนจักรไตร่ตรองและค้นพบความเชื่อใหม่ สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ได้เคยประกาศปีแห่งความเชื่อแล้วใน ค.ศ  1967  โอกาสระลึกถึง 1900 ปี   มรณกรรมของนักบุญเปโตรและเปาโล เพื่อให้เรามีความรู้ชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อ ทำให้มีชีวิตชีวา  บริสุทธิ์ มั่นคง และประกาศความเชื่อนี้
        โอกาสสุวรรณสมโภช (50ปี) การเปิดประชุมสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 น่าจะเป็นโอกาสดีช่วยประชาชนให้เข้าใจเอกสารของสภาซึ่งเป็นคำสอนสำคัญของพระศาสนจักร“ เพราะความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเรา ” ( 2 คร.5:14 ) ให้ไปประกาศข่าวดีสมัยปัจจุบัน  ประชาชนต้องการให้เราอุทิศตน ประกาศข่าวดีกับคริสตชนที่ละทิ้งความเชื่อ ให้พวกเขากลับมาค้นพบความยินดี ค้นพบความรักเมตตาของพระเจ้าในชีวิตประจำวัน   ความเชื่อเติบโตขึ้นเมื่อเราดำเนินชีวิต(ตามความเชื่อ) มีประสบการณ์ความรักที่เราได้รับ และถ่ายทอดความรักดังประสบการณ์แห่งพระหรรษทานและความยินดี ทำให้เรากล้าดำเนินชีวิตเป็นพยาน จนผู้อื่นตอบรับคำเชิญของพระเยซูเจ้า  สนใจพระวาจาและกลายเป็นศิษย์ของพระองค์
        สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเชิญบรรดาพระสังฆราชทั่วโลกร่วมมือกับพระองค์ฉลองปีแห่งความเชื่อนี้ ให้บังเกิดผล   ช่วยบรรดาคริสตชนให้สนใจพระวรสาร ให้บรรดานักบวชและชุมชนคริสตชนต้องพบหนทางประกาศให้สังคมรู้จัก Credo ว่า “เราเชื่ออะไร” ในระหว่างปีนี้
        คริสตชนในสมัยแรก ต้องท่องจำบทข้าพเจ้าเชื่อ ( The Creed ) สวดบทนี้ทุกวัน   เพื่อจะได้ไม่ลืมอุทิศตนทำตามความหมายของศีลล้างบาป    การประกาศความเชื่อด้วยคำพูด   อย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณะ  เราจะได้ตระหนักว่า   ความเชื่อมิใช่เรื่องส่วนตัวเท่านั้น   แต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบสังคมด้วย  เหมือนวันเปนเตกอสเต(สมโภชพระจิตเจ้า) พระศาสนจักรประกาศความเชื่อแก่ทุกคนอย่างกล้าหาญ  ซึ่งเป็นผลของพระจิตเจ้า ดังที่เราอ่านพบใน หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้าพเจ้าเชื่อและเราเชื่อ ดังนั้น หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกจึงเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้อบรมคริสตชนให้มีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น
                 เมื่อเราฟื้นฟูความเชื่อ เราจะต้องสนใจปฏิบัติความรักเมตตา ดังที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านทำสิ่งใดต่อ      พี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25:40)
                                                                                                                                                                                                     พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์   รายงาน

1 ความคิดเห็น:

  1. เพราะความรักพระเจ้า
    ผลักดันเราวันนี้
    ให้มีชีวีเพื่อเป็นพยาน

    ตอบลบ